ซื้อเฟรนไชส์ เรื่องต้องคิดก่อนการตัดสินใจ 2
2. ได้อะไร เสียอะไรจากแฟรนไชส์
2.1 ข้อได้เปรียบของการเข้าร่วมแฟรนไชส์ คืออะไร ?
ธุริจแฟรนส์เป็นธุรกจิที่ร่วมกันของบุคคล 2 ฝ่าย โดยที่ฝ่ายหนึ่งขาดซึ่งความรู้ ความชำนาญ คือ แฟรนไชซี่ และอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ คือ แฟรนไชซอ หากแฟรนไชซอไม่สามารถสร้างให้แฟรนไชซี่ประสบความสำเร็จได้ ก็เป็นการยากที่แฟรนไชซอจะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน ในทางกลับกันหากแฟรนไชซี่ประสบความส้มเหลวก็ย่อมส่งผลกระทบถึงแฟรนไชซอได้เช่นกัน การให้เข้าร่วมแฟรนไชส์จึงน่าจะมีข้อได้เปรียบ ดังนี้
1. โอกาสแห่งความสำเร็จที่สูงขึ้น
ในการทำธุรกิจใดๆ ย่อมมีความเสี่ยงที่จะไม่ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ เนื่องจากมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากมายแต่แนวคิดของการทำแฟรนไชส์ (franchisign) คือการดำเนินธุรกจิตามวิธีที่ได้ผ่านกระบวนการพัฒนาของแฟรนไชซอมาเป็นระยะเวลาแรมปี แล้วยังสามารถดำเนินธุรกิจอยู่ได้โดยเป็นที่ยอมรับของตลาดซึ่งแสดงให้เห็นถึงความชำนาญและประสบการณ์ในการประกอบการดังนั้น โอกาสของการประสบความสำเร็จในฐานะแฟรนไชซี่จึงนับว่ามีสูงกว่าการประกอบธุรกิจอิสระของตนเอง
2. ย่นระยะเวลาการเรียนรู้
แฟรนไชซอได้ทุ่มเทเวลาและเงินไปเป็นจำนวนไม่น้อยเพื่อที่จะสร้างและพัมนาระบบ พร้อมกับได้บันทึกขั้นตอน ในการดำเนินธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในระดับหนึ่งออกมาเป็นคู่มือ ซึ่งแฟรนไชซี่จะได้รับประโยชน์จากการถ่ายทอด ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ความรู้ที่ถูกรวบรวมไว้นี้จากแฟรนไชซอ ดังนั้นจึงเป็นการประหยัดเวลาในการเรียนรู้ถึงวิธีการดำเนินธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ในทันทีและมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้นเร็วขึ้นเนื่องจาก ไม่เกิดการลองผิดลองถูก
3. เครื่องหมายการค้าที่ได้รับการยอมรับ
เครื่องหมายการค้า/ บริการ เป็นทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของทุกๆ ธุรกิจ และเป็นสิ่งที่อาจจะเรียกได้ว่ามีค่าสูงสุดในบรรดาทรัพย์สินต่างๆ ยิ่งเมื่อธุรกิจนั้นประสบความสำเร็จ ทั้งนั้ก็เพราะเครื่องหมายการค้าเป็นเสมือนตัวแทนของธุรกิจต่อสายตาผุ้บริโภค เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความมีคุณภาพ มาตรฐาน หรือความแตกต่างใดๆ ของสินค้าหรือบริการของแต่ละธุรกิจ ธุรกิจแฟรนไชส์ก็เช่นกัน เนื่องจากเครื่องหมายการค้าเป็นสิ่งจำเป็นที่ควบคู่ไปกับการใช้สิทธิ์ ดังนั้นเมื่อธุรกิจของแฟรนไชซอได้ผ่านการดำเนินการมาระยะเวลาหนึ่ง ตราหรือเครื่องหมายทางการค้า/ บริการของแฟรนไชซี่ย่อมเป็นที่คุ้นเคยและยอมรับในระดับหนึ่งของผู้บริโภค ซึ่งแฟรนไชซี่ย่อมได้รับประโยชน์จากเครื่องหมายการค้า/ บริการ ที่ได้รับการยอมรับในตลาดแล้วไปด้วย ทำให้การเริ่มต้นธุรกิจของแฟรนไชซี่เป็นไปได้รวดเร็วกว่า เพราะไม่ต้องสร้างเครื่องหมายการค้าใหม่มาทำตลาดในพื้นที่ดังกล่าว
4. การประหยัดต่อขนาดจากการซี้อทีละมากๆ
ผู้ประกอบกิจการขนาดย่อมโดยทั่วไปมักพบว่าเป็นเรื่องยากที่ตนจะสามารถซื้อสินค้าและบริการในราคาถูกเนื่องจากปริมาณในการสั่งซื้อที่น้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการทำแฟรนไชส์ (Franchising) แฟรนไชซอสามารถรวบรวมความต้องการสั่งซื้อสินค้าของแฟรนไชซี่เข้าด้วยกันและเพิ่มอำนาจต่อรองของตน ทำให้สามารถซื้อสินค้าและบริการในต้นทุนที่ถูกลง และแฟรนไชซี่ย่อมได้รับสินค้าหรือวัตถุดิบในราคาที่ถูกลงตามไปด้วยซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขัน
5. การโฆษณาและสนับสนุนการขายร่วมกัน
โดยทั่วไปแล้วธุรกิจที่มีขนาดใหญ่เพียงพอเท่านั้นจึงจะสามารถรองรับค่าใช้จ่ายในการโฆษณา โดยเฉพาะการโฆษณาที่อาศัยสื่อแพงๆ เช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุ หรือโทรทัศน์ได้
ธุรกิจอิสระขนาดเล็กๆ เป็นจำนวนมากที่มีจำนวนสาขาไม่มาก เพราะเงินทุนไม่พอ การลงทุนค่าใช้จ่ายยิ่งเกิดขึ้นได้ยาก โดยเฉพาะการโฆษณาในระดับภาค หรือระดับประเทศ ดังจะเห็นตัวอย่างของร้านอาหารดังๆ ในจังหวัดต่างๆ ซึ่งก็เป็นผู้นำในตลาดมีผู้คนมากมายเป็นลูกค้า แต่ก็ไม่สามารถจะลงทุนการโฆษณาเพื่อสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ได้
แต่ด้วยเหตุที่การขยายตัวของแฟรนไชส์ อยู่ภายใต้เครื่องหมายการค้าเดียวกันและเมื่อมีจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนของทั้งแฟรนไชซอเองและการลงทุนชองแฟรนไชซี่ ซึ่งต่างก็เป็นเจ้าของกิจการร่วมระบบ ทำให้มีความได้เปรียบในเรื่องของความประหยัดต่อขนาดการลงทุนด้านโฆษณา สามารถส่งผลให้แก่ระบบโดยรวมได้โดยง่าย ก่อให้เกิดทั้งภาพลักษณ์และชื่อเสียงที่ดีกว่าร้านค้าอิสะทั่วไปที่การขยายตัวช้ากว่าเพราะเงินทุนที่จำกัดกว่า ในทำนองเดียวกันแฟรนไชซอสามารถรวบรวมทรับพยากรเข้าด้วยกันเพื่อที่จะผลักดันให้เกิดการโฆษณาและส่งเสริมการขายร่วมกันในต้นทุนที่ต่ำ นอกจากนี้การทำแฟรนไชส์ ยังเป็นผลดีต่อการนำเสนอภาพลักษณ์ที่เข้มแข็งและสอดคล้องกัน ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในการซื้อสินค้าและบริการจากแฟรนไชซี่
6. การถ่ายโอนความเชี่ยวชาญ
โดยปกติแฟรนไชซอจะมีการสั่งสมประสบการณ์และความชำนาญในการประกอบธุรกิจ เมื่อมีการขายสิทธิ์แฟรนไชซอจะให้ความสนใจกับการถ่ายทอดความรู้ต่อแฟรนไชซี่ เพื่อส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จ เนื่องจากความสำเร็จและผลกำไรของแฟรนไชซอย่อมเกี่ยวโยงกับความสำเร็จของแฟรนไชซี่โดยตรง
7. การฝึกอบรม
แฟรนไชซี่ย่อมได้รับการฝึกอบรมแนะแนวทางจากแฟรนไชซอ เพื่อช่วยส่งเสริมให้ประกอบการได้ดีขึ้นภายใต้มาตรฐานที่เป็นหนึ่งเดียว
8. บริการช่วยเหลือจากแฟรนไชซอ
แฟรนไชซี่สามารถรับากรบริการช่วยเหลือจากแฟรนไชซอในต้นทุนที่ต่ำ ยกตัวอย่างเช่น ความช่วยเหลือในการรับสมัครพนักงานทำบัญชี ย้ายที่ตั้งไปสู่ทำเลที่ดีขึ้น และอื่นๆ
2.2 ข้อเสียเปรียบของการเข้าร่วมแฟรนไชส์ คืออะไร?
แม้ว่าการทำแฟรนไชส์ (franchising) จะเป็นแนวคิดที่ดีแต่ก็ไม่ได้เป็นรูปแบบที่ดีที่สุดเนื่องจากการทำแฟรนไชส์ยังมีข้อจำกัดหรือไม่เหมาะสำหรับบางคน ในเรื่องต่างๆ พอสรุปได้ดังนี้
1. สูญเสียอิสระภาพในการดำเนินธุรกิจ
ดังที่ได้กล่าวแล้วว่าแนวคิดของการทำแฟรนไชส์ คือ การดำเนินธุรกิจตามวิธีที่ได้รับการพัฒนาจากแฟรนไชซอ การดำเนินธุรกิจตามรูปแบบที่กำหนดไว้เท่านั้นที่จะเป็นเครื่องรองรับความสำเร็จของแฟรนไชซี่ ดังนั้น แฟรนไชซี่จึงไม่มีอิสรภาพเต็มที่ต่อการตัดสินใจอย่างเช่น ควรขายสินค้าอะไรที่ราคาเท่าใด หรือเมื่อไหร่ที่จะเสนอขายสินค้าลดราคาและอื่นๆ นอกจากนี้แฟรนไชซี่ยังไม่สามารถตัดสินใจกระทำการใดๆ เพียงลำพังเนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแฟรนไชซอ หรือของแฟรนไชซี่รายอื่นๆ อย่างไรก็ตามยังมีแฟรนไชซอจำนวนไม่น้อยให้ความสำคัญกับการปรึกษาหารือกับแฟรนไซซี่อย่างสม่ำเสมอเพื่อทราบความต้องการของลูกค้าซึ่งมีความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละท้องที่
2. ไม่มีหลักประกันความสำเร็จ
ถึงแม้จะมีโอกาสสูงในการประสบความสำเร็จจากการซื้อแฟรนไชส์ แต่อาจกล่าวได้ว่าไม่มีหลักประกันที่แน่นอนในเรื่องนี้ ทั้งที่ในแง่ของแนวคิดแล้วแฟรนไชส์นั้นจะดูดีก็ตาม เนื่องจากความเสี่ยงทางธุรกิจสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยที่ทำให้ประสบความล้มเหลวทั้งที่เกิดจากตัวแฟรนไชซี่เอง หรือเกิดจากแฟรนไชซอ เช่นเรื่องการขาดเงินทุนที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ ขาดวิสัยทัศน์ในการเลือกทำเลที่ตั้ง แหล่งระบายสินค้าไม่เหมาะสม การที่แฟรนไชซี่ไม่สามารถปฏิบัติตามระบบของแฟรนไชซอ หรือคุณสมบัติของแฟรนไชซอที่ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากมีระยะเวลาในการดำเนินงานที่ยังไม่ได้พิสูจน์ความสำเร็จหรือได้รับการยอมรับจากตลาด
3. ค่าใช้จ่ายสูง
แฟรนไชซี่จำเป็นจะต้งอเสียค่าใช้จ่ายล่วงหน้าเพื่อการได้มาซึ่งลิขสิทธิ์ในการประกอบกิจการ นอกจากนี้แฟรนไชซี่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อย่างเช่น เงินลงทุนเพื่อตกแต่งร้านค้า และค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายเป็นประจำสำหรับบิรการสนับสนุนที่ได้รับจากแฟรนไชซอ เมื่อรวมค่าใชจ่ายเหล่านี้เข้าด้วยกันจะพบว่าเป็นจำนวนเงินที่สูง ดังนั้นเงินจำนวนนี้จะคุ้มค่าต่อการลงทุนก็ต่อเมื่อแฟรนไชซี่ได้รับผลตอบแทนที่สูงเช่นกัน อย่างไรก็ดีนับว่าเป็นที่จะต้องมีการศึกษาอย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจลงนามในสัญญาที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายใดๆ ที่ต้องจ่ายให้กับแฟรนไชซอ
ขอขอบคุณบทความดีๆทางอาชีพ
แหล่งที่มา : http://www.jjthai.net/sme_story/franchise/3.php