ซื้อเฟรนไชส์ เรื่องต้องคิดก่อนการตัดสินใจ 4
4. เรื่องที่ต้องทราบเกี่ยวกับแฟรนไชซอ
4.1 ภูมิหลังของแฟรนไชซอ |
|
ตรวจสอบชื่อเสียงและประวัติย้อนหลังของแฟรนไชซอในธรุกิจที่ทำแฟรนไชส์ (franchise) ในเรื่องของเอกสารที่แสดงความเป็นเจ้าของสิทธิ์ที่ถูกต้องจากหลักฐานในการจดทะเบียนพาณิชย์ การจดลิขสิทธิ์ในเครื่องหมายการค้า หรือในกรณีที่ซื้อสินค้าจากผู้อื่นมาอีกต่อหนึ่งก็ควรมีหลักฐานแสดงการได้รับอนุญาตเป็นตัวแทนในการจำหน่าย นอกจากนี้อาจสอบถามเกี่ยวกับเหตุผลหรือแรงจูงใจ ความมุ่งมั่น ในการริเริ่มกิจการนั้นเพื่อที่จะแน่ใจว่าแฟรนไชซอมีพันธะต่ธุรกิจที่ดำเนินอยู่ อายุของการทำธุรกิจ จำนวนสาขาที่เป็นของแฟรนไชซอเองและจำนวนแฟรนไชซี่ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ก็มีความสำคัญเพราะเป็นตัวบอกถึงความสำเร็จและความเชี่ยวชาญในธถรกิจนั้นๆ รวมถึงการผ่านประสบการณ์ในการแก้ปัญหาจนสามารถมีข้อสรุปที่นำมาให้คำแนะนำได้
| |
4.2 โครงสร้างการบริหารงาน |
การศึกษาโครงสร้างการบริหารงานและความรับผิดชอบของแต่ละส่วนงานภายในของแฟรนไชซอ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่สนใจจะซื้อแฟรนไชส์ในอนาคตตัดสินใจได้ว่าบริษัทดังกล่าวมีการจัดองค์กรที่ดีหรือไม่ มีพนักงานที่มีประสิทธิภาพหรือไม่ หรือมีทีมงานด้านแฟรนไชส์ที่สามารถให้บริการสนับสนุนอย่างที่ได้ระบุไว้หรือไม่ ซึ่งหากสามารถระบุตัวเจ้าหน้าที่ที่จะต้องติดต่อในากรประกอบการแฟรนไชส์ได้ก็จะเป็นการดีในการตรวจสอบความสามารถของทีมงาน และที่สำคัญแฟรนไชส์ที่ดีควรมีระบบงานอย่างเป็นมืออาชีพ อย่างน้อยที่สุดจะต้องมีแผนการอบรมเพื่อถ่ายทอดการทำธุรกิจ มีการจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานในส่วนงานต่างๆ มีสายด่วนให้คำปรึกษา หรืออาจค้นคว้าเกี่ยวกับภูมิหลังของผู้บริหารของบริษัทเพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลนั้นมีความน่าเชื่อถือและมีความรับผิดชอบต่อธุรกิจแฟรนไชส์
|
4.3 การเยี่ยมชมบริษัท |
อาจไม่เป็นการเพียงพอที่จะรับฟังหรืออ่านจากสิ่งที่แฟรนไชซอเสนอเท่านั้น การเยี่ยมชมบริษัทถ้าเป็นไปได้มากกว่าหนึ่งครั้ง จะเป็นผลดีอย่างมากเนื่องจากเราจะสามารถตรวจสอบการจัดการภายใน การจัดการพนักงานและระบบสนับสนุนต่างๆ ทั้งนี้พึงระลึกไว้เสมอว่าควรระมัดระวังแฟรนไชซอที่ไม่อนุญาตให้มีการเยี่ยมชม |
| |
4.4 การสอบถามจากผู้ที่เป็นแฟรนไชซี่ในปัจจุบัน |
ควรขอรายชื่อและที่อยู่ของผู้ที่แฟรนไชซี่ของธุรกิจดังกล่าวในปัจจุบันและหาโอกาสที่จะพบปะพูดคุยกับแต่ละรายให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ อย่างไรก็ตามควรอนุญาตจากแฟรนไชซอก่อนเสมอทั้งนี้ แฟรนไชซี่ที่กำลังประกอบการจะให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับยอดขายและกำไรที่คาดว่าจะได้รับอย่างดี
|
4.5 การสอบถามจากผู้ที่เป็นแฟรนไชซี่ในอดีต |
ควรสอบถามจากแฟรนไชซอและผู้เคยเป็นแฟรนไชซี่ในอดีตว่าเพราะเหตุใดแฟรนไชซี่ในอดีตจึงออกจากธุรกิจ สาเหตุอาจเกิดจากเหตุผลส่วนตัว หรืออาจจะเกี่ยวข้องกับตัวผลิตภัณฑ์ หรือเกี่ยวกับแฟรนไชซอ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการประเมิณและเพื่อความแน่ใจในคุณภาพของแฟรนไชซอรายนั้นๆ
|
4.6 สถานะทางการเงินและงบดุลของแฟรนไชซอในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา |
ควรประเมิณสถานะทางการเงินของแฟรนไชซอ โดยพิจารณาจากงบกำไรขาดทุนและงบดุลของบริษัท และควรตรวจสอบย้อนหลังไปประมาณ 3 ปี ซึ่งข้อมูลนี้สามารถขอได้จากแฟรนไชซอโดยตรง และควรสอบถามเกี่ยวกับสาเหตุของการขาดทุนที่เกิดขึ้นหรือยอดหนี้สินของบริษัท ถ้าหากพบว่างบดุลของบริษัทมียอดนหี้สินสูงมากกว่ายอดทรัพย์สิน แสดงว่าบริษัทประสบปัญหาเกี่ยวกับเงินทุนหรือมีการดำเนินธุรกิจบนสัดส่วนของหนี้สินที่สูง อาจเป็นสัญญาณว่าแฟรนไชซอไม่มีเสถียรภาพทางการเงินเพียงพอ อย่างไรก็ตามถ้าหากมีปัญหาในการทำความเข้าใจสถานะทางการเงินควรปรึกษาผู้รู้
|
4.7 ส่วนต่าง (margin) สำหรับสินค้าและบริการที่จะต้องจ่าย |
ควรสอบถามเกี่ยวกับส่วนต่าง (margin) ที่ชัดเจนของค่าสินค้าและบริการที่จะต้องจ่ายให้กับแฟรนไชซอในฐานะผู้ป้อนสินค้า เมื่อเปรียบเทียบกับแฟรนไชซอรายอื่นเพื่อการตัดสินใจ ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้รับสามารถตรวจสอบกับแฟรนไชซี่ในปัจจุบันของธุรกิจนั้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเตรียมตัวเพื่อทราบกระแสเงินสดในระหว่างที่เริ่มประกอบกิจการ รวมทั้งสามารถเข้าใจผลตอบแทนในอนาคต
|
4.8 เงื่อนไขหลักบางประการของข้อตกลง |
ควรขอรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงในสัญญาของแฟรนไชส์และอาจขอให้มีการชี้แจงเงื่อนไขหลักที่สำคัญ เช่น ค่าใช้จ่ายต่างๆ เงินรายงวด ระยะเวลาของสัญญา สิทธิ์ในขอบเขตการประกอบการอื่นๆ ทั้งนี้ถ้าหากเป็นไปได้ ควรเปรียบเทียบกันระหว่างแฟรนไชส์ในธุรกิจที่คล้ายกันหลายๆ บริษัท
ขอขอบคุณบทความดีๆทางอาชีพ
แหล่งที่มา : http://www.jjthai.net/sme_story/franchise/5.php |